วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ที่สุดของยานพาหนะ


ที่สุดของยานพาหนะ
 
รถยนต์ (Car) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก 
ได้แก่ รถ The Bugatti 'Royale' หรือ 'Golden Bugatti' เป็นรถ 8 สูบ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1927 ตัวรถยาวกว่า 6.7 เมตร (22 ฟุต)
รถยนต์ที่ยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ รถ 26 ล้อ ยาว 30.5 เมตร (100 ฟุต) ซึ่งออกแบบโดย Jay Ohrberg ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำและเตียงน้ำขนาดยักษ์
รถจักรยานคันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถจักรยานคันที่ชื่อ 'Frankencycle' ที่ออกแบบโดย Dave Moore ในสหรัฐฯ เส้นผ่าศูนย์กลางของล้อวัดได้ 3.05 เมตร (10 ฟุต) และ สูง 3.40 (11 ฟุต 2 นิ้ว)
รถจักรยานคันที่ยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ รถจักรยานสำหรับ 4 คนขับ สร้างในประเทศนิวซีแลนด์ วัดความยาวได้ 22.24 เมตร (72 ฟุต 11 1/2 นิ้ว)
รถจักรยานยนต์ (Motorcycle) ที่ยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ รถจักรยานยนต์ที่มีชื่อว่า 'Big Ben' เป็นรถขนาด 250 cc ตัวถังรถยาว 7.6 เมตร (24 ฟุต 11 นิ้ว) อยู่ในประเทศออสเตรเลีย
รถโดยสาร (Bus) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถ DAF Super City Train buses ซึ่งมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร 110 ที่ และห่วงจับจำนวน 140 ที่ในรถช่วงแรก และมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารจำนวน 60 ที่และห่วงจับจำนวน 40 ห่วงในรถช่วงที่สอง รถคันนี้หนัก 28 ตัน อยู่ในประเทศคองโก
รถพ่วง (Caravan) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถพ่วง 5 ชั้น สร้างใน ปี ค.ศ. 1990 สำหรับ Sheik Hamad Bind Hamdam AI Nahyan แห่งอาบูดาบี สาธารรัฐอาหรับเอมิเรทส์ ซึ่งยาว 20 เมตร (66 ฟุต) กว้าง 12 เมตร (39 ฟุต) และหนัก 120 ตัน มีห้องนอนพร้อมห้องน้ำ 8 ห้อง มีที่จอดรถได้ 4 คัน
รถยกบรรทุก (Fork - lift truck) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถยกบรรทุกของบริษัท Kalmar LMV of Lidhult ในประเทศสวีเดน มีสมรรถนะในการบรรทุกกว่า 90 ตัน
รถพยาบาล (Ambulance) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถพยาบาลที่ดำเนินการโดย the ACROSS Trust เป็นรถที่เดินทางข้ามทวีปยุโรป ตัวรถยาว 18 เมตร (59 ฟุต) สร้างในเบลเยี่ยมสามารถบรรทุกเจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยได้ 44 คน
รถบรรทุกขยะ (Dumper truck) คันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถ The Terex Titan ของบริษัท General Motors Corporation ซึ่งบรรทุกได้หนัก 317.5 ตัน ตัวรถสูง 17 เมตร (56 ฟุต) เป็นรถ 16 สูบ บรรจุน้ำมันได้ 5,910 ลิตร (1,300 แกลลอน)
รถไฟโดยสาร (Passenger train) ที่ยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ รถไฟโดยสารของบริษัท the National Belgian Railway Company ซึ่งประกอบด้วยตู้โดยสาร 70 ตู้ ซึ่งลากจูงโดยหัวรถจักรไอน้ำหัวเดียว วัดได้ยาว 1,732.9 เมตร (1,895 หลา) มีน้ำหนักรวม 2,786 ตัน
รถไฟสินค้า (Freight train) ที่ยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ รถไฟสาย Sishen - Saldanha railway ในอัฟริกาใต้ ซึ่งมีรถบรรทุกสินค้าพ่วง 660 คัน (แต่ละคันบรรทุกสินค้า 105 ตัน) ตัวรถยาว 7.3 กิโลเมตร (4 1/2 ไมล์) และแล่นได้ระยะทาง 861 กิโลเมตร (535 ไมล์) ในเวลา 22 ชั่วโมง 40 นาที
รถจักรไอน้ำ (Steam locomotive) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถจักรไอน้ำสาย the South African Raiways GMA Garratt สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1952 - 1954 มีน้ำหนักรวม 187.4 ตัน
รถกวาดหิมะ (Snow plough) คันใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถกวาดหิมะที่ออกแบบโดย Thomas Sedgwick รถคันนี้มีใบมีดกว้าง 9.83 เมตร (32 ฟุต 3 นิ้ว)
รถตัดหญ้า (Lawn mower) คันที่มีความกว้างมากที่สุดในโลก
ได้แก่ รถตัดหญ้าที่ชื่อ 'Big Green Machine' ของชาวนาในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ซึ่งกว้าง 18 เมตร (60 ฟุต) สามารถตัดหญ้าในเนื้อที่ 1 เอเคอร์เสร็จภายใน 60 วินาที
รถขุดดิน (Excavator) คันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถขุดดิน ซึ่งมีตัวถังหนัก 13,000 ตัน ตัวรถยาว 210 เมตร (690 ฟุต) และสูง 82 เมตร (269 ฟุต) มีเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ 67.88 เมตร (222 ฟุต)
เครื่องบินโดยสาร (Airliner) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เครื่องบิน Boeing 747 - 400 ของบริษัท Northwest Airlines ซึ่งมีปีกกว้าง 64.9 เมตร (213 ฟุต) มีระยะทางบิน 13,340 กิโลเมตร (8,290 ไมล์) สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้กว่า 566 คน
เครื่องบินทิ้งระเบิด (Bomber) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เครื่องบิน The B - 52 มีลำตัวเครื่องยาว 160 ฟุต 11 นิ้ว
เครื่องบินขนส่งสินค้าที่กว้างขวางที่สุดในโลก
ได้แก่ เครื่องบิน The Airbus Super Transporter A300 - 600ST Beluga สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 150 ตัน ลำตัวเครื่องบินยาว 56.16 เมตร (184 ฟุต 3 นิ้ว) มีเนื้อที่สำหรับใช้บรรทุกสินค้า 37.70 เมตร (123 ฟุต 8 นิ้ว)
เฮลิคอปเตอร์ (Helicopter) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ The Russian Mil Mi - 12 เครื่องยนต์ turboshaft ใบพัดวัดได้ 67 เมตร (219 ฟุต 10 นิ้ว) ลำตัวยาว 37 เมตร (121 ฟุต  4 1/2 นิ้ว)
เฮลิคอปเตอร์ให้บริการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ The Russian Mil Mi - 26 ซึ่งมีน้ำหนักบรรทุก 56,000 กิโลกรัม (123,500 ปอนด์) ลำตัวเครื่องยาว 32 เมตร (105 ฟุต)
เรือเหาะ (Airship) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือเหาะของเยอรมนี 2 ลำ ที่ชื่อ Hindenburg และ Graf Zeppelin II ทั้งสองลำมีความยาว 245 เมตร (803 ฟุต 10 นิ้ว) น้ำหนัก 213.9 ตัน เรือเหาะ Hindenburg บินเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1936 ส่วน Graf Zeppelin II ให้บริการระหว่างปี ค.ศ. 1928 - 1939
เรือเหาะที่ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือเหาะชื่อ the WDL 1 B ซึ่งสร้างโดยบริษัท Mulheim ประเทศเยอรมนี มีลำตัวยาว 60 เมตร (197 ฟุต)
บัลลูน (Balloon) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ บัลลูนของบริษัท Winzen Research Inc ในรัฐมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีปริมาตรบรรจุก๊าซ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร สูง 300 เมตร (1,000 ฟุต) แต่มันไม่ลอยขึ้นจากพื้นและโดนทำลายไปเมื่อปี 1975
เรือโดยสาร (Liners) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือโดยสาร Carnival Cruise Line's Carnival Destiny ซึ่งมีลำตัวยาว 272 เมตร (893 ฟุต) และกว้าง 38 เมตร (125 ฟุต)
เรือโดยสารที่มีขนาดลำเรือยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือโดยสาร the Norway ของบริษัท Norwegian Cruise Line ลำตัวเรือยาว 315.53 เมตร (1,035 ฟุต 7 1/2 นิ้ว) มีห้องพักสำหรับลูกเรือ 900 คน และผู้โดยสาร 2,032 คน
เรือโดยสารข้ามฟาก (Ferries) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ The Silja Europa ซึ่งบริการระหว่างกรุงสต็อกโฮม ประเทศสวีเดน กับกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ลำตัวเรือยาว 201.8 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ 3,000 คน รถยนต์ 350 คัน และรถบรรทุก 60 คัน
เรือโดยสารข้ามฟากนานาชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ Klaipeda, Vilnius, Mukran และ Greifswald ที่สร้างในประเทศเยอรมนี ซึ่งให้บริการในทะเลบอลติก ระหว่าง Klaipeda, Lithuania และ Mukran ประเทศเยอรมนี แต่ละลำหนัก 11,513 ตัน มีลำตัวเรือ รวมดาดฟ้า 2 แห่งยาว 190.5 เมตร (625 ฟุต) และกว้าง 91.86 เมตร (301 ฟุต 5 นิ้ว)
เรือสินค้า (Cargo vessel) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือบรรทุกน้ำมันที่ชื่อ the Jahre Viking น้ำหนักบรรทุก 564,763 ตัน ตัวเรือยาว 458.45 เมตร (1,504 ฟุต)
เรือสำเภา (Junk) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือสำเภา Zheng He ของบริษัท Admiral Zheng He ที่ให้บริการทางทะเลมาตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 1420 จำนวน 62 ลำ แต่ละลำมีความยาวแตกต่างกันไป ลำยาวที่สุดคือ 164 เมตร (538 ฟุต)
เรือโดยสารไฮโรฟอยล์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือโดยสาร Supramar PTS 150 MK IIIs หนัก 165 ตัน ที่ให้บริการระหว่างประเทศสวีเดน และเดนมาร์ก บรรทุกผู้โดยสารได้ 250 คน ความเร็ว 74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (40 นอต)
เรือโฮเวอร์คราฟท์ (Hovercraft) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ The SRN4 Mk III ต่อในประเทศอังกฤษ มีน้ำหนัก 300 ตัน บรรทุกผู้โดยสารได้ 418 คน และรถยนต์ 60 คัน ตัวเรือยาว 56.38 เมตร (185 ฟุต) ข้ามช่องแคบในอัตราความเร็ว 65 นอต
เรือใบ (Sailing ship) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ the France II ซึ่งต่อใน Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส มี 5 ใบเรือ วัดได้ 127.4 เมตร (418 ฟุต) เป็นเรือใบที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างกันมา แต่มันอับปางนอกฝั่ง New Caledonia ในทะเลแปซิฟิกใต้ เมื่อปี ค.ศ.1922
เรือใบยนต์ที่มีขนาดยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ Club Med 1 ที่ต่อในฝรั่งเศส มีเสา 5 เสา ลำตัวเรือยาว 187 เมตร (613 ฟุต) ควบคุมใบเรือด้วยคอมพิวเตอร์ บรรทุกผู้โดยสารได้ 425 คน
เรือยอร์ช (Yacht) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ Saudi Arabian royal yacht ชื่อ Abdul Aziz ที่ต่อในประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1987 ลำเรือยาว 147 เมตร (482 ฟุต) มีมูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (61 ล้านปอนด์)
เรือยอร์ชส่วนตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ Alexander ซึ่งยาว 120 เมตร (400 ฟุต) เดิมเป็นเรือเฟอรี่ แต่ดัดแปลงมาเป็นเรือยอร์ช เมื่อปี ค.ศ. 1986
เรือรบ (Battleships) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือรบของญี่ปุ่น ชื่อ Yamato และ Musashi ซึ่งมีน้ำหนักบรรทุก 67,884 ตัน ลำตัวเรือยาว 263 เมตร (863 ฟุต) ประกอบไปด้วย อาวุธประจำเรือ คือ ป้อมปืน 3 ป้อม ปืนลำกล้องขนาด 460 มิลลิเมตร 9 กระบอก ปืนแต่ละกระบอกหนัก 164.6 ตัน ลำกล้องยาว 22.8 เมตร (75 ฟุต)
เรือรบบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ USS Nimitz ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ลำตัวเรือยาว 332.9 เมตร (1,092 ฟุต) ดาดฟ้ามีเนื้อที่ 4 1/2 เอเคอร์ เร่งความเร็วได้กว่า 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (30 นอต) มีระวางขับน้ำ 91,400 ตัน
เรือรบ (Warship) ที่แล่นเร็วที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ US Navy hovercraft ซึ่งมีลำตัวเรือยาว 23.7 เมตร (78 ฟุต) เร่งความเร็วได้ถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (91.9 นอต)
เรือดำน้ำ (Submarine) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ the Russian Typhoon ระวางขับน้ำ 26,500 ตัน ตัวเรือยาว 171.5 เมตร (562 ฟุต 8 นิ้ว)
เรือดำน้ำที่มีความเร็วที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ The Russian Alpha เป็นเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ มีความเร็วกว่า 74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (40 นอต)
รถถังที่แล่นเร็วที่สุดในโลก
ได้แก่ the British Scorpion ซึ่งสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ที่สุดในประเทศไทย


จังหวัดที่อยู่เหนือสุด
จังหวัดเชียงราย
จังหวัดที่อยู่ใต้สุด
จังหวัดนราธิวาส
จังหวัดที่มีพื้นที่น้อยที่สุด
จังหวัดสมุทรสงคราม (มีพื้นที่ 399 ตร.กม.)
จังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุด
จังหวัดเชียงใหม่ (มีพื้นที่ 22,993 ตร.กม.)
จังหวัดที่มีจำนวนประชากรน้อยที่สุด
จังหวัดระนอง
จังหวัดที่มีจำนวนประชากรมากที่สุด
จังหวัดกรุงเทพมหานคร
จังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับเขตจังหวัดอื่นๆมากที่สุด
จังหวัดตาก มีเขตติดต่อกับจังหวัดอื่นๆ 9 จังหวัด
จังหวัดทางภาคใต้ของไทย ที่ไม่มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลเลย
จังหวัดยะลา,พัทลุง
ยอดเขาที่สูงที่สุด
ยอดดอยอินทนนท์ สูง 2,580 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ภูเขาสำคัญทางภาคเหนือ
มี 5 เทือกเขาสำคัญคือ แดนลาว,เพชรบูรณ์,ตะนาวศรี,ผีปันน้ำ,ขุนตาล
ภูเขาที่ใหญ่ที่สุดทางภาคใต้
เทือกเขานครศรีธรรมราช
เกาะที่ใหญ่ที่สุดของไทย
เกาะภูเก็ต กว้าง 20 กม. ยาว 45 กม.
เกาะที่เป็นท่าเรือสำคัญของไทย
เกาะสีชัง
ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด
ทะเลสาบสงขลา มีพื้นที่ประมาณ 15 ตร.กม.
หนองน้ำที่ใหญ่ที่สุด
หนองหาร อยู่ที่จังหวัด สกลนคร
แม่น้ำที่ยาวที่สุด
แม่น้ำเจ้าพระยา รวมกับแม่น้ำปิง (หนึ่งในต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยา) มีความยาวรวม 850 กม.(เจ้าพระยา 300 กม.,แม่น้ำปิง 550 กม.)
แม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเลที่
จังหวัดสมุทรปราการ
คลองที่ยาวที่สุด
คลองแสนแสบ ยาว 65 กม.
แหล่งเพาะพันธุ์ปลาที่ใหญ่ที่สุด
บึงบรเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์
น้ำตกที่สูงที่สุด
น้ำตกสิริภูมิ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
ถนนสายแรกในประเทศไทย
ถนนเจริญกรุง สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5
ถนนสายที่ยาวที่สุด
ถนนเพชรเกษม จากกรุงเทพมหานคร ถึง จ.นราธิวาส ยาว1,473 กม.
ทางรถไฟสายแรกของไทย
ทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-ปากน้ำ
ทางรถไฟสายที่ยาวที่สุด
ทางรถไฟสายใต้ ยาวประมาณ 1,114 กม.
อุโมงค์ที่ยาวที่สุด
อุโมงค์ขุนตาล หรือ ถ้ำขุนตาล ที่ จ.ลำปาง
สะพานที่ยาวที่สุดของไทย
สะพานติณสูลานนท์ จ.สงขลา ข้ามมาจากบ้านเขาเขียวไปเกาะยอ และจากเกาะยอไปบ้านน้ำกระจาย มีความยาว 2,640เมตร
วนอุทยานแห่งชาติที่อยู่สูงที่สุด
ภูกระดึง จ.เลย
ตึกที่สูงที่สุดของไทย
ตึกธนาคารกรุงเทพจำกัด สำนักงานใหญ่ ถ.สีลม กทม. สูงถึง 33 ชั้น แต่ปลายปี 2529 นี้ตึกใบหยกทาวเวอร์(กำลังก่อสร้าง)ซึ่งอยู่หลังดรงแรมอินทราประตูน้ำ กทม.จะเป็นตึกที่สูงที่สุด เนื่องจากมีความสูงถึง 41 ชั้น
ส่วนที่แคบที่สุดของไทย
บริเวณ คอคอดกระ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กว้างประมาณ 10กม.
จังหวัดที่มีฝนตกมากที่สุด
จ.ระนอง
จังหวัดที่ปลูกชากันมาก
จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่
จังหวัดที่ปลูกอ้อยมากที่สุด
จ.กาญจนบุรี
จังหวัดที่ผลิตเกลือได้มากที่สุด
จ.สมุทรสาคร
จังหวัดที่ปลูกพริกไทยมากที่สุด
จ.จันทบุรี
มะพร้าวมีมากที่สุดที่
เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ส้มโอลือชื่อของไทยปลูกที่
อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
ดีบุกขุดได้มากที่สุดที่
จ.ภูเก็ต
จังหวัดที่ปลูกเงาะมากที่สุด
จ.จันทบุรี
เงาะโรงเรียนที่มีชื่อปลูกที่
จ.สุราษฎร์ธานี
โรงงานน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่
อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
โรงงานอุตสาหกรรมแป้งมัน ทำมากที่สุดที่
จ.ชลบุรี
หวายของไทยมีมากที่สุดที่
จ.ชุมพร
จังหวัดที่มีแร่วุลแฟลมมากที่สุด
จ.กาญจนบุรี
นกนางแอ่น มีมากที่สุดที่
จ.ชุมพร
หินอ่อนในประเทศไทยมีมากที่
จ.สระบุรี
ภาคใดของประเทศไทยมีการเลี้ยงไหมมากที่สุด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคใดของประเทศไทยมีการเลี้ยงไหมมากที่สุด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ถ่านหินมีมากที่
จ.ลำปาง และ จ.กระบี่
ส้มเขียวหวาน ที่นิยมกันว่ามีรสชาดดีอยู่ที่
อ.บางมด กรุงเทพมหานคร
ทองคำมีมากที่
อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์,อ.โต๊ะโมะ จ.ยะลา และ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
จังหวัดทางภาคใต้ของไทยที่มีชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่มาก
จ.ปัตตานี,จ.ยะลา,จ.นราธิวาส และ จ.สตูล
ปลาที่ชาวประมงจับได้มากที่สุด
ปลาทู
ปลาที่ใหญ่ที่สุดในลำน้ำโขง
ปลาบึก
กษัตริย์ไทยพระองค์แรก
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
นายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย
พระยามโนปกรณ์นิติธาดา
สมเด็จพระสังฆราชองค์แรกของเมืองไทย(กรุงรัตนโกสินทร์)
สมเด็จพระสังฆราชศรี วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี
ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนแรกของไทย
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงคนแรกของไทย
นางอรพินท์ ไชยกาล
อธิบดีหญิงคนแรกของไทย
คุณหญิงอัมพร มีศุข อธิบดีกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ
จอมพลคนแรกของเมืองไทย
จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯกรมพระยาภาณุพันธ์วงศ์วรเดช
นักดาราศาสตร์คนแรกของไทย
รัชกาลที่ 4 (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)
นางสาวไทยคนแรก
นางสาวกันยา เทียนสว่าง
นักมวยไทยคนแรกที่ได้ครองตำแหน่งแชมป์โลก
นายโผน กิ่งเพชร
นักพากย์ภาพยนตร์คนแรกของไทย
นายสิน สีบุญเรือง (ทิดเขียว)
นักเขียนการ์ตูนคนแรกของไทย
ขุนปฏิภาคพิมพ์ลิขิต (เปล่ง ไตรปิ่น)
ผู้คิดประดิษฐ์อักษรไทยเป็นคนแรก
พ่อขุนรามคำแหง
ผู้คิดตัวพิมพ์อักษรไทยเป็นคนแรก
ร้อยโท เจมส์ โลว์
ผู้เริ่มใช้กระแสไฟฟ้าคนแรกของไทย
จอมพล เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เติม แสงชูโต)
ผู้เปิดเดินรถเมล์ในกรุงเทพมหานครเป็นคนแรก
พระยาเศรษฐภักดี
ผู้ประดิษฐ์สามล้อขึ้นใช้ในประเทศไทยเป็นคนแรก
นายเลื่อน พงษ์โสภณ
ผู้ให้กำเนิดลูกเสือไทยเป็นคนแรก
รัชกาลที่ 6 (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
ผู้ริเริ่มแท็กซี่ขึ้นในเมืองไทย
พลโท พระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา)
เมื่อปี พ.ศ.2466
ผู้ที่ริเริ่มใช้คำว่า "สวัสดี"
พระยาอุปกิตศิลปสาร
ผู้ให้กำเนิดเพลงชาติ
พระเจนดุริยางค์ (บรรเลงครั้งแรกโดย วงดุริยางค์ทหารเรือ)
ผู้ให้กำเนิดเพลงสรรเสริญพระบารมี
กรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)
ผู้แต่งเพลงกราวกีฬา
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
ผู้ที่ได้รับยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย"
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ผู้ที่ได้รับยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งการแพทย์ไทย"
สมเด็จพระราชบิดากรมหลวงสงขลานคริทร์
ฝาแฝดคู่แรกของไทย
ฝาแฝด อิน-จัน เกิดเมื่อ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2434 ที่ จ.สมุทรสงคราม
ผู้ที่ริเริ่มใช้ รศ.(รัตนโกสินทร์ศก)
รัชกาลที่5 (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)
ร.ศ.1 ตรงกับปี พ.ศ.ใด
พ.ศ.2331
เรือกลไฟลำแรกของไทย
เรือสยามอรสุมพล (เป็นเรือที่รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้พระยาศรีสุริยวงศ์ ต่อขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2398)
โรงพยาบาลแห่งแรกของไทย
โรงพยาบาลศิริราช
มหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โรงเรียนอนุบาลแห่งแรกของประเทศไทย
โรงเรียนอนุบาลที่โรงเลี้ยงเด็ก ซึ่งพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ พระอัครชายาในรัชกาลที่5 เป็นผู้ให้กำเนิด
ธนาคารเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย
แบงก์ สยามกัมมาจล
โรงภาพยนตร์โรงแรกใน กทม.ที่ฉายภาพยนตร์จอซีนีมาสโคป
โรงภาพยนตร์ ศาลาเฉลิมไทย
โรงแรมแห่งแรกของไทย
โรงแรมโอเรียนเต็ล
โรงพิมพ์แห่งแรกของไทย
โรงพิมพ์หมอบรัดเลย์ ตั้งอยู่ที่สำเหร่ ธนบุรี
บทประพันธ์ที่ทำการขายลิขสิทธิ์กันในครั้งแรกในประเทศไทย
เรื่อง นิราศลอนดอน ของหม่อมราโชทัย ขายลิขสิทธิ์ให้กับหมอบรัดเลย์
แบบเรียนเล่มแรกของคนไทย
หนังสือจินดามณี ที่พระโหราธิบดี เป็นผู้แต่ง
หนังสือไทยเล่มแรก
หนังสือไตรภูมิพระร่วง
หนังสือพิมพ์ข่าวฉบับแรกของเมืองไทย
หนังสือพิมพ์บางกอกรีคอดเดอร์ พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ.2387
ปฎิทินฉบับภาษาไทย จัดพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ
ปี พ.ศ.2385
วิทยุ โทรทัศน์ มีขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อ
ปี พ.ศ.2497(สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม)
สถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทย
สถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม (ปัจจุบันคือ อสมท.ช่อง9)
โรงเรียน "หลวง" สำหรับราษฎรแห่งแรก คือ
โรงเรียน วัดมหรรณพาราม
สภากาชาด ตั้งขึ้นเมื่อไหร่
ตั้งขึ้นในรัชกาลที่6 เดิมชื่อ สภาอุณาโลมแดง
เจดีย์ที่เก่าแก่ และใหญ่ที่สุด
พระปฐมเจดีย์ ที่ จ.นครปฐม
พระปรางค์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย
พระปรางค์ที่วัดอรุณราชวราราม(วัดแจ้ง ธนบุรี)
พระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดของไทย
พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ประดิษฐานที่วัดไตรมิตรวิทยาราม กทม.(หนัก 5 ตัน)
พระพุทธไสยาสน์ ที่ยาวที่สุด
พระพุทธไสยาสน์ ที่วัดพระนอน จ.สิงห์บุรี
พระพุทธรูปยืนที่สูงที่สุด
พระพุทธรูปยืนที่วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม กรุงเทพฯ
พระนอนที่ยาวที่สุด
พระนอนที่วัดขุนอินทรประมูล จ.อ่างทอง
พระพุทธรูปนั่งที่ใหญ่ที่สุด
พระพุทธโคดม วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี
วัดที่มีระฆังใบใหญ่ที่สุด
วัดกัลยากรณ์ กรุงเทพมหานคร
วัดที่ไม่มีพระจำพรรษาเลย
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
จังหวัดที่เคยมีรถรางเดินประจำนอกจากกรุงเทพฯแล้วคือ
จ.ลพบุรี
วัดไทยที่สร้างเลียนแบบวัดฝรั่ง
วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ บางปะอิน จ.อยุธยา (รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น)
กระทรวงต่างๆมีขึ้นในรัชกาลใด
รัชกาลที่ 5 (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)
ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบราชาธิปไตยเป็นระบอบประชาธิปไตยเมื่อใด
ปี พ.ศ.2475 ในรัชกาลที่ 7
ประเทศไทยเริ่มใช้ธงไตรรงค์เมื่อ
ปี พ.ศ.2460
ประเทศไทยเริ่มนับเอาวันที่ 1 เดือนมกราคมเป็นวันปีใหม่เมื่อ
ปี พ.ศ.2483
ประเทศไทยสมัครเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติเมื่อ
วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2489
ประเทศไทย เปลี่ยนจากเดิมเรียกว่า "ประเทศสยาม" มาเป็น "ประเทศไทย" เมื่อ
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2492
ประเทศไทยเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 กับฝ่ายสัมพันธมิตรด้วยนั้น ตรงกับรัชกาลใดของไทย
รัชกาลที่ 6 (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
ประเทศไทยเลิกใช้เงินพดด้วงแล้วเริ่มใช้เหรียญกษาปณ์เมื่อใด
ในสมัยรัชกาลที่ 4
กระทรวงการคลัง เริ่มออกพันธบัตรใช้ตั้งแต่รัชกาลใด
รัชกาลที่ 5
คนไทยเริ่มใช้นามสกุลเมื่อใด
ในสมัยรัชกาลที่ 5
การประปาเริ่มมีขึ้นในรัชกาลใด
ในสมัยรัชกาลที่ 5
สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ เปิดสัญจร ไป-มา เมื่อใด
วันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2475
พระราชวังสมัยกรุงธนบุรีเป็นราชธานีคือ
พระราชวังเดิม อยู่ระหว่างวัดอรุณราชวราราม กับวัดโมฬีโลกยาราม
เขาพระวิหาร เดิมตั้งอยู่ที่ไหนก่อนถูกเขมรฟ้องร้องกลับคืนไป
เดิมตั้งอยู่ที่ อ.กันทราลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ
เครื่องหมายตราประจำชาติไทย
ตราครุฑ
ประเพณีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา เริ่มมีครั้งแรกในสมัยใด
สมัยกรุงศรีอยุธยา
ประเทศไทยเริ่มใช้แสตมป์เมื่อใด
ปี พ.ศ.2474
ผู้ที่เปลี่ยนชื่อ "ทุ่งพระเมรุ" เป็น "ท้องสนามหลวง" คือ
รัชกาลที่ 5 (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)
คิงส์มงกุฎ หมายถึง
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เจ้าของนามปากกา "น.ม.ส." คือ
รัชนี แจ่มจรัส
คำว่า พระปรมินทร์ และ พระปรเมนทร์ มีที่ใช้ต่างกันอย่างไร
พระปรมินทร์ ใช้กับ ลำดับรัชกาลที่เป็นเลขคี่
พระปรเมนทร์ ใช้กับ ลำดับรัชกาลที่เป็นเลขคู่
กฎมณเฑียรบาล คือ
กฎหมายพิเศษที่กล่าวถึง พระราชฐาน และพระราชวงศ์
ใครเป็นผู้ประพันธ์ บทเห่เรือ ที่ใช้เห่เรือกระบวนหลวงในปัจจุบัน
เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์(เจ้าฟ้ากุ้ง)
กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นเมื่อใด
ปี พ.ศ.2325
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) สร้างขึ้นในรัชสมัยใด
รัชกาลที่ 1 (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก)
สถาบันที่จัดทำสารานุกรมไทย และพจนานุกรมไทยคือ
ราชบัณฑิตยสถาน
นายกรัฐมนตรีไทยคนใดที่ตกเป็นจำเลย "อาชญากรสงครามโลกครั้งที่2
จอมพล ป.พิบูลสงคราม
นายกรัฐมนตรีที่เป็นทนายต่อศาลโลก กรณีเขมรฟ้องร้องขอกรรมสิทธิ์เขาพระวิหารคือ
ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
หัวหน้าขบวนการเสรีไทย นอกประเทศระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
กบฎแมนฮัตตัน เกิดขึ้นในรัฐบาลใด
รัฐบาลสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เกิดขึ้นในวันที่มีพิธีรับมอบเรือแมนฮัตตัน จากสหรัฐอเมริกา ที่ท่าราชวรดิษฐ์
"อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ"สร้างขึ้นเพื่อ
เป็นอนุสรณ์รำลึกถึงวันที่ทหารและพลเรือนเสียชีวิตในสงครามอินโดจีน ปี พ.ศ.2484
"วงเวียน 22 กรกฎาคม" สร้างขึ้นเพื่อ
เป็นอนุสรณ์เนื่องในวันที่ประเทศไทย ประกาศสงครามเข้าร่วมกับพันธมิตร รบกับเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่1
ปืนใหญ่สมัยโบราณ ที่ตั้งรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีจำนวนเท่าไร
75 กระบอก
นพรัตน์ หรือแก้วเก้าประการ ประกอบด้วย
เพชร,ทับทิม,มรกต,บุษราคัม,โกเมน,นิล,มุกดาหาร,เพทาย,ไพฑูรย์
ต้นไม้ที่คนไทยโบราณเชื่อว่า ปลูกไว้ในบ้านแล้วจะเป็นมงคล
ต้นมะยม เพราะ จะทำให้คนนิยม

ต้นขนุน เพราะ จะทำให้ผู้สนับสนุน

ต้นมะขาม เพราะ จะทำให้ผู้คนเกรงขาม

ต้นพุทธรักษา เพราะ ปลูกแล้วพุทธานุภาพจะคุ้มครองบ้านนั้น
ต้นไม้ที่คนไทยโบราณไม่นิยมปลูกไว้ในบ้าน
ต้นลั่นทม เพราะ ชื่อต้นไม้ไปพ้องคำว่า ระทม

ต้นมะไฟ เพราะ มีคำว่ามะไฟ จะทำให้เดือดร้อนเหมือนไฟ

ต้นพุทรา เพราะ เสียงออกเป็นซา ซึ่งหมายถึงความร่วงโรย
 

ความจริง


เหยียบดวงจันทร์...จริงหรือหลอก? 
ความจริงเรื่องนี้ตอนหนังเรื่องนี้ออกมาฉายใหม่ๆ เราเคยมีการถกเถียงกันอยู่พักใหญ่ครับ
สรุปแล้ว ผมรู้สึกว่าคนที่เชื่อว่าลง ก็ยังเชื่ออย่างนั้น และคนที่ไม่เชื่อว่าไปลงมาจริง ก็ยังเชื่ออย่างนั้น
ขอให้ลองกลับไปดู "หลักฐาน" ของกลุ่ม conspiracy theory อย่างพินิจพิเคราะห์นะครับ ใช้ common sense กับหลักการทางฟิสิกส์ รวมถึงกลับไปดู primary evidence ก็จะพอบอกได้ครับว่าใครมั่ว
เอาเรื่องธงก่อน นาซ่ารู้ว่าบนดวงจันทร์ไม่มีลมครับ การที่จะเอาธงไปปักแล้วถ่ายรูปมาให้เห็นว่าเป็นธงอเมริกาสวยๆ ไม่ใช่เป็นผ้าแดงห้อยอยู่ จึงต้องมีเหล็กดามอยู่ด้านบน
เรื่องเหล็กที่ดามอยู่นี้ มีระบุไว้ใน specification ของธงที่นำขึ้นไปกับ Apollo 11 ครับ ดูได้ใน Apollo 11 premission reportซึ่งมีผู้พิมพ์รวมเล่มออกมา เมื่อประมาณ 6 ปีก่อน (Apollo 11: the NASA missions reports, vol 1. Apogee books. หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อเดือนมิถุนายน 1999 คือก่อนที่ Fox TV จะออกอากาศรายการจับผิดเกือบสองปี)
อีกประเด็นคือมีการเอา video clip มาให้ดูแล้วบอกว่าธงมันสะบัดไปมาได้ ต้องเป็นเพราะลมพัด ดังนั้นจึงต้องถ่ายมาจากบนโลก
ความจริง แล้วถ้าดูจาก clip เต็มๆ ที่ไม่ได้ตัดต่อ (หนังสือเล่มที่ว่านี้แถม CD มาด้วยครับ มี video clip ช่วงนี้อยู่) จะเห็นว่ากว่านักบินจะปักธงเสร็จ ใช้เวลาสิบกว่านาที ในระหว่างนี้ทั้งสองคนพยายามจับเสาธง โยกและหมุนไปมาเพื่อปักให้มันลงพื้น ทำให้ตัวธงพลอยแกว่ง ("สะบัด" ไปมาตามไปด้วย แต่ high light อยู่ตรงนี้ครับ คือเมื่อปักเสร็จแล้ว ธงก็แข็งทื่ออยู่ท่านั้น (โค้งๆ อยู่อย่างนั้น) ไม่ขยับอีก (ลมหยุดกะทันหัน แล้วไม่พัดอีกเลย?) บน site ของ NASA เองก็มี clip ช่วงนี้อยู่ แต่ความละเอียดต่ำมาก และน่าเสียดายที่ตัดไปตอนที่ปักธงเสร็จพอดี
เรื่องฝุ่นที่ขาของ LEM นี้ ความจริงประเด็นอยู่ตรงที่ผู้ที่ไม่เชื่อว่าไปมาจริงบอกว่าในเมื่อ LEM ต้องใช้ไอพ่นตอนลงดวงจันทร์ ก็น่าจะมีฝุ่นฟุ้งมาให้เห็น และติดอยู่กับขา LEM บ้าง ซึ่งข้อวิจารณ์นี้ถ้า LEM บินลงบนโลก จะเป็นความจริงครับ คือจะมีฝุ่นจำนวนมากฟุ้งขึ้นมา แต่ลองนึกดูดีๆ นะครับ ว่า LEM เริ่ม "เบรก" ตั้งแต่แยกตัวออกมาจาก CSM ในวงโคจรแล้ว ในขณะที่บินลงมาใกล้จะถึงพื้นผิวนั้น ลงมาด้วยความเร็วต่ำค่อนข้างคงที่ แรงที่ต้องใช้จึงเป็นเพียง 1/6 ของน้ำหนัก LEM บนโลกเท่านั้น ประกอบกับบนดวงจันทร์ไม่มีบรรยากาศที่จะไปช่วยยกฝุ่นขึ้นมาเหมือนอย่างบนโลก จึงไม่ค่อยมีฝุ่นฟุ้งขึ้นมาเหมือนกับถ้าเวลาถ่ายทำบนโลกครับ
เรื่องแสง เงา และฉากหลัง มาดูภาพนี้กันก่อนครับ
http://www.hq.nasa.gov/office/pao/History/alsj/a13/ap13-s69-62241.jpg

อันนี้เป็นภาพของ Jim Lovell (Apollo 13) ถ่ายกับฉากหลัง อันนี้ดูก็รู้ว่า make แน่ๆ (ไม่ได้ใส่หมวกด้วย) แต่ประเด็นคือมันมีดาวครับ ดังนั้น เราพอจะสรุปได้ว่าการวาดรูปดาวลงฉากหลังไม่ได้เกินความสามารถของนาซ่า
แล้วทำไมไม่มีดาวในรูปลงดวงจันทร์? บางทีเราอาจจะลืมไปนะครับว่าตอนที่ Apollo 11 ลงดวงจันทร์ เป็นตอนสายๆ ของดวงจันทร์ครับ ลองมองดูพระจันทร์วันเพ็ญนะครับ สว่างสวยใช่ไหมครับ แล้วลองจินตนาการดูว่าคุณไปยืนอยู่บนพื้นผิวดวงจันทร์ขณะนั้น รอบๆ ตัวคุณจะสว่างขนาดไหน
แน่นอนครับ บนดวงจันทร์ไม่มีบรรยากาศที่จะทำให้แสงกระเจิง ท้องฟ้าขณะนั้นจึงยังคงเป็นตอนกลางคืน และสามารถมองเห็นดาวได้ แต่ถ้าคุณถ่ายรูปมาโดยที่ foreground สว่างมาก เป็นเรื่องปกติที่ดาวซึ่งมีความสว่างต่ำกว่าผิวดวงจันทร์และมนุษย์อวกาศมากจะไม่ติดออกมาครับ ถ้าไม่เชื่อวันหลังเวลาไปเที่ยวป่าเห็นดาวสวยๆ ลองพยายามถ่ายรูปคุณโดยมีดาวเป็นฉากหลังดูสิครับ รูปที่คุณจะเห็นคือหน้าคุณสว่างสดใสด้วยแสงแฟลช ส่วนฉากหลังเป็นท้องฟ้ามืดๆ ธรรมดา
เรื่องเงาก็เหมือนกัน มีคนติงว่าน่าจะเกิดจากแหล่งกำเนิดแสงหลายแหล่ง ผมเห็นว่ารูปเกือบทั้งหมดที่เอามาใช้เป็น"หลักฐาน" สามารถอธิบายได้ง่ายๆ ด้วยเรื่องของ perspective ครับ (ลองดูเวลาถ่ายรูปกำแพงหรือรูปตึกก็ได้ เส้นมันไม่ได้ขนานกันหรอก) มีบางรูปที่แสงที่เกิดเป็นแสงที่สะท้อนมาจากพื้นผิว หรือแม้แต่ตัวมนุษย์อวกาศเอง (อย่าลืมว่าพื้นผิวขณะนั้นมันสว่างมาก)
โครงการอพอลโล นอกจาก Apollo 11 แล้ว ก็ยังมี Apollo 12, 14, 15, 16, 17 ที่ได้ไปลงดวงจันทร์ และต่างก็ทิ้ง descent stage และธงชาติอเมริกันเอาไว้ นอกจากนี้ตั้งแต่ Apollo 14 เป็นต้นมา ก็ยังทิ้งรถ Lunar Rover ไว้เที่ยวละคัน และยังมีอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ที่ทิ้งเอาไว้อีกเป็นจำนวนมาก
และก็ไม่ใช่ว่าเขาแค่ไปเที่ยวถ่ายรูปเฉยๆ นะครับ ยังเก็บก้อนหินกลับมาด้วยทุกครั้ง (ecotourist ไม่ควรเอาอย่าง) ก้อนหินจากดวงจันทร์เหล่านี้ ได้แบ่งไปวิเคราะห์ใน lab ทั่วโลก ซึ่งโครงสร้างของมันก็ไม่เหมือนก้อนหินบนโลก
จริงๆ ก็ยังมีประเด็นอื่นๆ อีก แต่ผมว่าใครพูดอะไรมาก็ลองพิจารรณาดูดีๆ ก่อนนะครับ พยายามหา primary source ถ้าทำได้ ในที่สุดแล้วใช้ common sense กับความรู้ทางฟิสิกส์อีกนิดหน่อยก็จะพอบอกได้ว่าใครพูดจริง ใครมั่ว
By : Gong_Pob [ 1 ก.ค. 48 - 21:02:41 น. ] 

ความเห็นที่ 1 

..
From : Gong_Pob [ 1 ก.ค. 48 - 21:05:34 น. ]

ความเห็นที่ 2 

 เดี๋ยวให้ฉันจะสรุปผลรู้ว่า เป็นเรื่องแหกตาต่อชาวโลกกำลังพิสูจน์ภาพลวงตาขนีล อาร์มสตรอง นักบินอวกาศคนแรกเหยียบพื้นดวงจันทร์เมื่อปี 1969 ตอนที่ฉันยังไม่เกิดแค่ปีถัดไปเอง...พรุ่งนี้จะตัดขยายภาพของจริงมาให้ดูค่ะ องฉากหลังที่เพราะของจริงเป็นภาพโหลดใหญ่มากเห็นฉากชัดเจน เอาไปบีบอัดที่ทำงานฉันค่ะ ส่วนภาพเล็กที่โหลดได้ ให้สังเกตดูที่ธงชาติอเมริกาปักบนพื้นดวงจันทร์มีรอยพับยู่ยี่ แปลว่า ดวงจันทร์ไม่มีลมพัดหรอกค่ะ มีแต่แรงโน้มถ่วงลอยตุ๊บเต้นผ่างลอยกลางอากาศได้ ฉันลองชั่งน้ำหนักบนดวงจันทร์(ที่ท้องฟ้าจำลอง) ปรากฏว่า น้ำหนักเบาแค่ 11.5 โลเท่านั้นค่ะ  อิ อิ เรื่องนี้ของถนัดเรื่องอวกาศ ฉันชอบอ่านเรื่องวิทยาศาสตร์อยู่แล้วค่ะ 
From : oiltrips [ 1 ก.ค. 48 - 22:49:33 น. ]

ความเห็นที่ 3 
ดีครับคุณ Oiltrips ผมก็อยากดูรูปเหมือนกัน ผมก็ชอบเรื่องอย่างนี้เช่นกัน นี่ก็กำลังหาซื้อกล้องดูดาวสักตัว พอจะแนะนำผมได้มั้ยครับ
From : Gong_Pob [ 2 ก.ค. 48 - 00:32:40 น. ]

ความเห็นที่ 4 
ผมเชื่อว่า นีล อาร์มสตรอง ลงดวงจันทร์จริงครับ แล้วไปเจอมนุษย์ต่างดาวตัวเล็ก ๆ จึงเก็บกลับมาโลก ( แอบเก็บมาโดยนาซ่าไม่รู้ ) ต่อมา เด็กต่างดาวคนนั้นก็เป็นมะเร็งแต่ไม่ตาย แล้วก็กลับมาเป็นแชมป์ ตูร์เดอร์ฟรอง ได้ 6 สมัย กำลังลุ้น สมัยที่ 7 อยู่นี่แหละ ก็ แลนซ์ อาร์มสตรอง ไง ....ยังมีคนตั้งข้อสงสัยเลย ว่า แลนซ์ นี่ เป็นมนุษย์ต่างดาว ...  
From : tom [ 2 ก.ค. 48 - 09:57:58 น. ]

ความเห็นที่ 5 
ผมว่ามันก็ไม่แน่ว่าเค้าอาจจะไปจริงหรือไม่จริง แต่ตามนิสัยไอ้กันที่ชอบหมกเม็ดแล้ว เค้าคงไม่บอกเราทั้งหมด หรือไม่เปิดเผยภาพจริง อาจจะมีการส่งมนุษย์อวกาศไปอีกหลายครั้งแต่ไม่เปิดเผย อาจไปแล้วไม่ได้อะไรหรือ ไม่คุ้มหรืออาจได้อะไรที่สุดยอดกลับมา เท่าที่ผมจำได้ ยุคนั้นเป็นช่วงสงครามเย็นระหว่างสองค่าย ข้อมูลที่ออกมาล้วนแล้วต้องพิจรณาครับ ผมถามเพื่อนที่เป็นคนอเมริกันแท้ๆ เค้ายังไม่รู้เลยครับว่ากลางทะเลทราย (Area..... อะไรสักอย่างนี่แหละ ที่ว่ามียานมนุษย์ต่างดาวมาตก) มันมีโครงการอะไรสักอย่างที่รัฐบาลไม่ยอมเปิดเผย......สงสัยผมจะดูสตาร์วอร์มากไป เฮ้อ!.........ขอพลังจงอยู่กันท่าน
From : Deep purple [ 2 ก.ค. 48 - 11:25:23 น. ]

ความเห็นที่ 6 

 สรุปผลออกมาแล้ว ภาพนักบินอวกาศกำลังยืนปักธงชาติอเมริกาลงพื้นดวงจันทร์ แต่เป็นของปลอมลวงตาชาวโลกแหละ เพราะดูแต่งกายชุดนักบินไม่เหมือนภาพแรกเมื่อ 37 ปีที่แล้ว ฉากหลังเป็นโทนสีดำทึบแทบมองไม่เห็นดวงดาวข้างบนเลย แสงส่องจากข้างหลังเหมือนไฟสปอร์ตใหญ่ ค่ะ
....จำได้ไหมว่า หนังฮอลลีวู้ดบึ๊กซีนม่าฉายเรื่อง " ID 4" ไอดี สงครามจานบินยักษ์ยึดเมืองวอชิงตัน-นิวยอร์ค มองให้เห็นฉากแรกบนดวงจันทร์มีธงชาติอเมริกาปักอยู่ไม่มีรอยยู่ยี่เลย เงายานอวกาศยักษ์ผ่านธงชาตินั้น จะไม่มีแกว่งไกว เพราะดวงจันทร์ไม่มีลมพัด แต่แรงลมพัดจากยานกำลังบินใกล้ๆ ธงชาติจะโบกสะพัด และรอยเท้าของนีล อาร์มสตรองจะลบหายไปด้วยฝุ่นกระจายไปหมด...แล้วใครจำหนังเรื่อง ไอดี4 จำได้มั้ยค่ะ 
From : oiltrips [ 2 ก.ค. 48 - 12:25:21 น. ]

ความเห็นที่ 7 

 ภาพแรกที่โหลดยักษ์มาบีบเล็กลง นักบินอวกาศคนแรก "นีล อาร์มสตรอง" ให้เห็นชุดแต่งกายของจริงกำลังเดินย่างเท้าเหยียบพื้นดวงจันทร์ อันนี้ว่าไม่ใช่ของเก๊หรอก แต่เป็นของจริงค่ะ
From : oiltrips [ 2 ก.ค. 48 - 12:30:21 น. ]

ความเห็นที่ 8 

มาตัดขยายผลออกมาเห็นกระจกหน้ากากนักบินอวกาศของนีลแล้ว เป็นภาพของจริงที่สมบูรณ์ สังเกตเห็นแสงสะท้อนเงาฉากหลังที่มีเพื่อนนักบินอวกาศอีกคนมาช่วยถ่ายข้างหลังแสงอาทิตย์ จะเห็นยานอะพอลโล 11 อยู่ใกล้ๆ เส้นพื้นดวงจันทร์จะเอียง เพราะพื้นดวงจันทร์กลมๆไม่แบนหรอก ผิวขุรรุขระหนัก น่าจะเอาจักรยานไปปั่นบนดวงจันทร์ได้ ถ้ามีตังค์ 8 ล้านบาท สามารถซื้อทัวร์ไปดวงจันทร์ในอนาคตได้แน่นอนค่ะ 
From : oiltrips [ 2 ก.ค. 48 - 12:38:40 น. ]